เด็กสาววัย 13 ปี หายออกบ้านกว่า 3 อาทิตย์ ญาติๆตามหากันวุ่น แต่ยังไร้วี่แวว วอนผู้พบเห็นช่วยแจ้งเบาะแส
วันที่ 5 ธ.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ญาติๆ วอนโซเซียลช่วยแจ้งเบาะแสตามหาเด็กสาววัย 13 ปี หายออกจากบ้านไปตั้งแต่วันที่ 12 พ.ย. 65 ที่ผ่านมา จนตอนนี้ครบ 22 วัน แต่ก็ยังไม่พบตัว กระทั่งมีการโพสต์โซเชียลตามหากันวุ่น ตากับยายที่เลี้ยงมาตั้งแต่อายุ 1 ปี 4 เดือน เป็นห่วงหลานสาว อยากให้กลับมาบ้าน
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านป่าซางเหนือ เลขที่ 129 ม.1 ต.โป่งแพร่ อ.แม่ลาว จ.เชียงราย พบกับนายปั๋น ตาคำ อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นตา ที่เลี้ยงดูแลมาตั้งแต่เด็ก เผยกับผู้สื่อข่าวว่า ด.ญ.มินตรา (หลานสาว) ตนเองได้ให้ ด.ญ.มินตรา อยู่กับทวด อายุ 86 ปี ที่บ้าน 2 คน ส่วนนายปั๋น (ตา) ได้แยกบ้านไปอยู่อีกหมู่บ้าน ห่างออกไปราว 5 กม. ทุกเช้าจะเอาอาหารมาส่งให้ ด.ญ.มินตรา และทวด ที่บ้านทุกเช้า แล้วตนเองก็จะไปทำสวนทำไร่ ส่วนพ่อแม่ ด.ญ.มินตรา ได้เลิกรากันไปตั้งแต่เด็ก ตนเองจึงรับมาเลี้ยงดูแล ส่วนแม่น้องทำงานอยู่ที่ จ.ลำพูน ซึ่งนานๆทีก็จะกลับมาบ้านเที่ยวหา ด.ญ.มินตรา
ซึ่งในวันเกิดเหตุ วันที่ 12 พ.ย. 65 นายปั๋นได้มาหา ด.ญ.มินตรา เวลาประมาณ 1 ทุ่ม เพราะด้วยความเป็นห่วง ซึ่งวันนั้นเป็นวันประเพณีลอยกระทง จึงบอกให้หลานสาวทำความสะอาดบ้าน ซักผ้า ให้เรียบร้อย โดยไม่มีการดุด่า ซึ่งวันที่หายตัวไป ตรงกับวันลอยกระทง คาดว่าเวลาประมาณ 20.00 น. ด.ญ.มินตรา อาจจะปีนรั้วบ้านออกไปเที่ยวงานประเพณีลอยกระทง โดยมีเพื่อนมารับไป จนกระทั่งรุ่งเช้าตนมาส่งอาหาร แต่ไม่พบหลานสาว จึงได้ออกไปตามหา แต่ก็ตามหาไม่พบ จึงได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.แม่ลาว ไว้เป็นหลักฐาน
ซึ่งทางนายปั๋น (ตา) ยังเล่าอีกว่า ตนเองได้ไปติดตามสอบถามที่โรงเรียนที่หลานสาวเรียนอยู่แล้ว แต่ทางโรงเรียนบอกว่า ไม่เห็น ด.ญ.มินตรา มาโรงเรียนหลายวันแล้ว เมื่อสอบถามไปยังเพื่อนๆที่สนิท แต่ก็ไม่เห็นมาใครพบเห็น โดยทางเพื่อนก็พยายามโทรติดต่อไปที่มือถือ ด.ญ.มินตรา แต่มีการกดสายทิ้ง ทำให้นายปั๋นไม่สบายใจ เป็นห่วงหลานสาวที่เลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก จึงร้องขอให้หลานสาวกลับมาบ้าน ทาง ตา-ย่า-แม่ เป็นห่วง ให้อภัยหลานสาวได้เสมอ
จากการสอบถามไปยัง พนักงานสอบสวน สภ.แม่ลาว เผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งติดตามตัว กระจ่ายข่าว และออกสืบค้นหา พร้อมกับติดตามหมายเลขโทรศัพท์ ครั้งสุดท้ายของ ด.ญ.มินตรา ว่าอยู่ที่ไหน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า น้องอาจจะไปหลบตัวอยู่กับเพื่อน ซึ่งทางกฎหมายต้องดูกันอีกที่ว่าน้องสมัครใจไปอยู่อาศัยกับคนอื่นเอง หรือว่าถูกใครล่อลวงบังคับกักขัง ก็ต้องมาดูข้อเท็จจริงอีกครั้ง