“ตรีนุช” ลงพื้นที่ลำพูน ติดตามโครงการอารยเกษตรฯโรงเรียนนำร่อง “โคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวัง” ลั่นสนับสนุนทุกมิติ พลิกโฉมการจัดการศึกษา มุ่งสู่การพัฒนาสมรรถนะเยาวชน ให้เป็น “อารยเยาวชนไทย”
เมื่อวันที่ 21 ม.ค.65 ที่โรงเรียนวัดวังหลวง จังหวัดลำพูน น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) พร้อม พลเรือเอก ปวิตร รุจิเทศ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการใหญ่ จิตอาสาพระราชทานโครงการอารยเกษตร สืบสาน รักษา ต่อยอด ตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงด้วย “โคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวัง” (เครือข่ายอารยลุ่มน้ำลี้), รศ.ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ ด้านการศึกษา , นายสุทธิชัย จรูญเนตร ที่ปรึกษา รมว.ศธ. , ดร.อัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) และคณะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการอารยเกษตร สืบสาน รักษา ต่อยอด ตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงด้วย “ โคก หนอง นาแห่งน้ำใจและความหวัง” (เครือข่ายอารยลุ่มน้ำลี้) ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) ลำพูน เขต 2
น.ส.ตรีนุช กล่าวว่า โครงการอารยเกษตร สืบสาน รักษา ต่อยอด ตามแนวทางพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงด้วย “โคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวัง” มีวัตถุประสงค์ในการประยุกต์ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และ ทฤษฎีใหม่ ในแบบชาวบ้าน ผ่านการ “ปั้นโคก ขุดหนอง ทำนา” ซึ่งเป็นการสร้างต้นแบบเกษตรทฤษฎีใหม่ในพื้นที่ขนาดเล็ก และสามารถดำเนินการได้ในทุกเงื่อนไขของพื้นที่ โดยมุ่งเน้นปรับเปลี่ยนพื้นฐานแนวความคิด ฝึกวินัย ลงมือปฏิบัติ รวมถึง การแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในท้องถิ่นสู่การเรียนรู้ในสถานศึกษาให้เกิดผลในมิติต่างๆ ทั้ง การพึ่งพาตนเอง ความกตัญญู การพัฒนาจิตใจ การพัฒนาทางปัญญา รวมทั้งสามารถเป็นที่พึ่งของชุมชนได้อย่างมั่นคง และยั่งยืน
“กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ตระหนักถึงความสำคัญ จึงน้อมนำโครงการฯมาปฏิบัติ โดยคัดเลือกสถานศึกษานำร่อง ระยะที่ 1 จำนวน 102 โรงเรียน และประสานความร่วมมือกับ ศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน , ศูนย์การเรียนกสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง, โรงเรียนปูทะเลย์มหาวิชชาลัย, และคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ให้แก่สถานศึกษาที่เป็นพี่เลี้ยง และจัดทำหลักสูตรสถานศึกษา ตลอดจนการตรวจเยี่ยม สร้างขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงาน ซึ่งส่งผลให้สถานศึกษามีความรู้ ความเข้าใจ และมีแนวทางที่ชัดเจน สำหรับนำมาพัฒนาจัดระบบการเรียนการสอน ผ่านการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายการศึกษาทุกภาคส่วน เหมาะสมกับภูมิสังคมและบริบทของแต่ละท้องถิ่น ทำให้นักเรียนสามารถพึ่งพาตนเอง และเป็นที่พึ่งของชุมชนได้”
รมว.ศธ. กล่าวอีกว่า ตนได้มีนโยบายให้การสนับสนุนการดำเนินงานในด้านต่างๆ เพื่อให้โครงการอารยเกษตรฯ สำเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์ ด้วยการพลิกโฉมการจัดการศึกษา ทั้งในมิติการบริหารโครงการและมิติวิชาการ เพื่อมุ่งสู่การพัฒนาสมรรถนะเยาวชน ให้เป็น “อารยเยาวชนไทย” ตามแนวทางพระราชทาน ให้เด็กและเยาวชน สร้างเสริมวิชาการ วิชาชีพและวิชาชีวิต โดยมีความรู้และคุณธรรม เป็นคนดีมีระเบียบวินัย รับผิดชอบตัวเองได้ พึ่งพาตัวเองได้ เป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน สร้างประโยชน์ให้กับส่วนรวม มีความกตัญญูกตเวที มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดี พร้อมเป็นฮีโร่ของชุมชน และประเทศชาติ ทั้งนี้ ข้าพเจ้าและบุคลากรของ ศธ.ทุกคน สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้และจะทุ่มเทแรงกาย แรงใจ ในการร่วมกันดำเนินงานโครงการ อารยเกษตร สืบสาน รักษา ต่อยอด ตามแนวทางพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงด้วย “โคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวัง” ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อสร้างเยาวชนให้เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาชาติสืบไป
น.ส.ตรีนุช กล่าวด้วยว่า นักเรียนที่จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จากโรงเรียนในโครงการอารยเกษตรฯ หากสนใจเรียนต่อสายวิชาชีพสามารถเข้าร่วมโครงการอาชีวะอยู่ประจำ เรียนฟรี มีอาชีพ ของวิทยาลัยในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ได้ โดยที่จังหวัดลำพูน มีถึง 3 วิทยาลัยอาชีวะที่น้อง ๆ สามารถเข้าร่วมได้ และเรื่องนี้ยังเป็นการเชื่อมต่อ ที่กระทรวงศึกษาธิการตั้งใจแก้ปัญหาเด็กตกหล่นทางการศึกษา เป็นการทำงานแบบบูรณาการอย่างครบวงจร เพราะเราไม่ต้องการทิ้งน้องๆ คนใดไว้ข้างหลัง