นายสอน อิ่นแก้ว นายกเทศมนตรีตำบลบ้านกลาง อ.เมือง จ.ลำพูน เปิดเผยว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า หรือโควิด-19 ทำให้หลายคนต้องหันมาให้ความสำคัญ และป้องกันตนเองโดยใช้หลักการ D-M-H-T-T คือ เว้นระยะห่าง ,สวมหน้ากากอนามัย,หมั่นล้างมือ,ตรวจวัดอุณหภูมิ ,ใช้แอพไทยชนะ และไม่ไปอยู่ในสถานที่แออัด โดยภายหลังจากที่เราสวมใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันโรคแล้ว หน้ากากอนามัยจะถูกทิ้งและกลายไปเป็นขยะที่พบเพิ่มมากขึ้น ซึ่งหากจำแนกประเภทขยะแล้ว หน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วถือเป็นขยะประเภทขยะติดเชื้อ และหากทิ้งไม่ระวัง ก็อาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อและแพร่กระจายไปได้โดยง่าย โดยเฉพาะพนักงานที่ปฏิบัติงานด้านรักษาความสะอาด หรือพนักงานเก็บขนขยะ ที่ต้องทำงานเสี่ยงสัมผัสเชื้อโดยตรง
เทศบาลตำบลบ้านกลาง ได้กำหนดจุดทิ้งขยะติดเชื้อ (ถังขยะสีแดง) ซึ่งถือเป็นขยะอันตรายประเภทหนึ่ง ตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดโควิด19 ในระลอกแรก ซึ่งถังจะตั้งอยู่บริเวณสถานที่สาธารณะใจกลางหมู่บ้านและชุมชนทั้ง 12 หมู่บ้านในตำบลบ้านกลาง โดยจะมีพนักงานมาจัดเก็บขยะเป็นประจำทุกวัน แต่เนื่องจากในขณะนี้ยังมีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด19 อยู่ และพบว่าประชาชนส่วนใหญ่ ไม่ได้ให้ความสำคัญของการคัดแยกขยะประเภทหน้ากากอนามัยเท่าที่ควร พบว่ายังมีทิ้งปะปนมากับขยะทั่วไป และไม่มี การทิ้งใส่ถุงแยก จึงทำให้พนักงานเก็บขนขยะมีความเสี่ยงต่อการสัมผัสเชื้อโรคขณะปฏิบัติงานมากขึ้น
ดังนั้น จึงได้กำชับให้พนักงานเก็บขนขยะซึ่งถือเป็นด่านแรกที่ต้องเจอกับขยะติดเชื้อให้สวมใส่ถุงมือและหน้ากากอนามัยทุกครั้ง พร้อมทั้งขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน ผู้ประกอบการต่างๆ ในพื้นที่ตำบลบ้านกลาง ได้คัดแยกขยะประเภทขยะติดเชื้อ ได้แก่ หน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าที่ใช้แล้ว กระดาษชำระ ถุงมือสัมผัสสิ่งของ ควรระมัดระวังแยกทิ้งในถุงพลาสติกใสที่สามารถเห็นสิ่งของภายใน มัดปิดปากถุงให้มิดชิด ถ้าเป็นถุงทึบให้เขียนบนถุงตัวใหญ่ๆให้ชัดเจน เพื่อป้องกันไม่ให้พนักงานเก็บขนขยะสัมผัสโดยตรง ซึ่งจะสามารถลดความเสี่ยงของการติดเชื้อโควิด-19 และช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อโรคต่างๆ ได้