วันศุกร์ ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565, 22.18 น.
พ่อเมืองลำพูน เปิดจวนเชิญปลูกผักสวนครัว สร้างความมั่นคงทางอาหาร มีผักปลอดภัยไว้กินเอง
25 พ.ย. 2565 นายสันติธร ยิ้มละมัย ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทย ได้มีนโยบายให้ทุกจังหวัดทั่วประเทศ ดำเนินการน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในการเสริมสร้างความมั่นคงด้านอาหาร เพื่อขับเคลื่อนขยายผลให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี ได้บริโภคผักปลอดสารพิษ และลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ด้วยการบูรณาการทุกหน่วยงานร่วมกันรณรงค์และสร้างการรับรู้ให้ประชาชนในพื้นที่ได้ตระหนักในเรื่องของการสร้างความมั่นคงทางอาหาร มีผักสวนครัวที่ปลอดภัยและมีคุณภาพดีปลูกไว้รับประทานเองภายในครัวเรือน ตามโครงการ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” และ “ปลูกพืช ปลูกผัก ปลูกรัก กับ พช.”
นายสันติธร ยิ้มละมัย ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน กล่าวว่า วานนี้ (24 พ.ย. 2565) จังหวัดลำพูน ได้น้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในการส่งเสริมความมั่นด้านอาหาร โดยยึดแนวทางที่ว่า “ผู้นำต้องทำก่อน” ตนได้เปิดพื้นที่ในจวนผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูนอีกครั้ง เพื่อร่วมกันปลูกพืชผักสวนครัว โดยมี นางดวงกมล ยิ้มละมัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดลำพูน/ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดลำพูน นายชาตรี กิตติธนดิตถ์ ปลัดจังหวัดลำพูน นางบำเพ็ญ เมืองมูล พัฒนาการจังหวัดลำพูน นายโยธิน ประสงค์ความดี นายอำเภอเมืองลำพูน เหล่ากาชาดจังหวัดลำพูน และสมาชิกแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดลำพูน มาร่วมกิจกรรมอย่างพร้อมเพรียง ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการนำพืชผักที่ได้จากโครงการดังกล่าว ที่ปลูก ณ จวนผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน แจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชนในชุมชน เป็นการลดรายจ่ายให้กับพี่น้องประชาชนได้อีกทางหนึ่ง
“นอกจากนี้ กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ยังได้น้อมนำแนวพระราชดำริของ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สร้างความมั่นคงทางอาหาร สู่ปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร อย่างต่อเนื่อง ซึ่งการสร้างความมั่นคงทางอาหาร เป็นนโยบายสำคัญของกรมการพัฒนาชุมชน ที่ให้สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดทุกจังหวัด ดำเนินการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้กลุ่ม องค์กร เครือข่ายพัฒนาชุมชน รวมถึงประชาชนในจังหวัดลำพูน ได้ร่วมกันปลูกผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร รวมทั้งเกิดการพึ่งตนเอง ครอบครัว และชุมชนได้อย่างยั่งยืน อีกด้วย” นายสันติธร กล่าวตอนท้าย